ครอบครัวต่างด้าวชาวเมียนมาพาลูกสาววัย 12 ปี หลบหนีย้ายตำบลหวั่นไม่ปลอดภัย ผวามาเฟียสัญชาติเดียวกัน โมโหที่แจ้งความตำรวจหลังก่อลักพาตัวลูกสาวไปข่มขืนนาน 5 วัน แล้วนำมาทิ้งข้างสถานีรถไฟ
จากเหตุการณ์เด็กหญิงวัย 12 ปี ลูกสาวของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้ถูก นายซออู อายุ 35 ปี มาเฟียต่างด้าวชาวเมียนมาด้วยกัน หลอกพาไปอ้างว่าจะหางานให้ทำแต่กลับพาไปขังหน่วงเหนี่ยวและข่มขืนภายในบ้านพักแรงงานต่างพื้นที่นานถึง 5 วัน จากนั้นนำตัวมาทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟปากตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ขณะที่พ่อแม่และเพื่อนชาวเมียนมาตามหากันทุกวันแต่ไร้ร่องรอย กระทั่งมาพบลูกสาววัย 12 ปี ถูกลักพาตัวไปข่มขืนยับเยินแล้วถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟ จึงเข้าแจ้งความไว้กับตำรวจ สภ.ทุ่งตะโก เมื่อวันที่ 27 พ.ค.63 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามรถติดตามจับกุมแรงงานชาวพม่าหื่นรายได้มาดำเนินคดีได้นั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 28 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับครอบครัวของเด็กหญิงวัย 12 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งได้หลบหนีออกจากพื้นที่อาศัยในตำบลเดิมไปอยู่อาศัยบ้านพักของเพื่อนแรงงานชาวเมียนมาด้วยกันในสวนทุเรียนแห่งหนึ่งของ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากพื้นที่เกิดเหตุกว่า 20 กิโลเมตร เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากผู้ก่อเหตุคือ นายซออู อายุ 35 ปี ชาวเมียนมา มีพฤติกรรมเป็นมาเฟียนักเลงอันธพาลที่เพื่อนแรงงานส่วนใหญ่ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวด้วย
จากการพูดคุยกับนายชัย อายุ 38 ปี นางชู อายุ 37 ปี และเด็กหญิงยียีมอ ลูกสาววัย 12 ปี สามพ่อแม่ลูกผ่านล่ามชื่อนายโจ ชาวเมียนมา ที่บริเวณเพิงพักหน้าบ้านปูนชั้นเดียวซึ่งเป็นบ้านพักของเพื่อนแรงงานชาวเมียนมาด้วยกัน ที่นายจ้างได้ให้อาศัยอยู่ภายในสวนทุเรียน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรยและยังเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายชัยและนางชูได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตนเองได้นำลูกสาวไปแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.ทุ่งตะโกแล้ว และต่อมาก็มีข่าวจากเพื่อนแรงงานว่านายซออูผู้ก่อเหตุลักพาตัวและข่มขืนลูกสาวตนจะมาแก้แค้นครอบครัวตนที่นำเรื่องไปแจ้งความกับตำรวจ ทำให้ตนเองหวั่นกลัวเป็นอย่างมากเนื่องจากทราบว่านายซออู มีอิทธิพลมากและคอยดูแลกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ อ.หลังสวน และ อ.ทุ่งตะโก ตนจึงได้ขนข้าวขนของที่จำเป็นมาขออาศัยเพื่อนชาวเมียนมาด้วยกัน เพื่อหลบซ่อนตัวก่อน ตอนนี้ยอมรับว่าหวาดกลัวอย่างมาก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงอยากให้ทางตำรวจเร่งไล่ล่าเพื่อจับกุมตัวนายซออูมาดำเนินคดีโดยเร็ว
นายโจ ล่ามชาวเมียนมายังบอกว่าที่ผ่านมา นายซออูผู้ก่อเหตุรายนี้เคยกระทำในลักษณะนี้มาแล้ว ครั้งนั้นเป็นลูกสาวของเพื่อนชาวเมียนมาเช่นกัน และเด็กหญิงชาวเมียนมาคนนั้นก็อายุเท่ากันกับเด็กหญิงคนนี้ แต่ทางครอบครัวของผู้เสียหายไม่กล้าไปแจ้งความเพราะเกรงกลัวจะถูกนายซออูพาตำรวจมาจับเนื่องจากนายซออูเองก็เคยเป็นล่ามให้กับทางตำรวจมาก่อน จึงทำให้นายซออูไม่เกรงกลัวอะไรทำตัวเป็นด่างด้าวมาเฟียเที่ยวข่มขู่แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาตลอด.