วันที่ 15 ก.ย.63 นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร พ.ต.อ.นิวัติ ชื่นวิเศษ ผกก.สภ.ละแม พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง จากกรมเจ้าท่า กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานดิน ทหาร และ กอ รมน. รวมกว่า 20 คน ลงพื้นที่ริมแม่น้ำละแม หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนายทุนใช้เครื่องจักร เข้าบุกรุก ตัดไม้ ลักลอบดูดทราย ตักทราย นำออกไปขายเป็นเวลานานหลายปี จนทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อระบบนิเวศน์และทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะแม่น้ำละแม เป็นแหล่งต้นน้ำสายหลักของอำเภอละแม
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้กำหนดจุดพื้นที่บ่อทราย ริมแม่น้ำละแม เพื่อเข้าตรวจสอบ จำนวน 29 แห่ง โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ซึ่งจากการดำเนินการในวันนี้มี 10 แห่ง พบการกระทำผิดทั้งหมดถึง 9 แห่ง ซึ่งเป็นการลักลอบขุดทรายผิดกฎหมาย และไม่มีการขออนุญาต โดยทางคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่การขุดทรายดังกล่าว พบร่องรอยของเครื่องจักร รอยล้อรถ และอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ ในการลักลอบขุดทราย ดูดทราย และโรงเรือนที่พักคนงาน ที่มีสภาพการทำงานมาอย่างต่อเนื่องมานานหลายปีจนถึงปัจจุบัน คาดว่ากลุ่มนายทุนลักลอบดูดทรายเถื่อนคงรู้ตัว รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่จะทำการลงตรวจสอบตามที่ชาวบ้านร้องเรียน จึงมีการขนย้ายอุปกรณ์สิ่งของสำคัญต่างๆบางส่วนและแรงงานหลบหนีออกจากจุดลักลอบดูดทรายไปก่อนแล้ว แต่ยังมีหลักฐานบางอย่างหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปเก็บหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร เปิดเผยว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีการขุดทรายหรือดูดทรายผิดกฎหมายในพื้นที่ของอำเภอละแม เป็นจำนวนมาก ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ และได้บูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดจริงหรือไม่ โดยได้กำหนดระยะการ ดำเนินการตรวจสอบครั้งนี้ไว้ 3 วัน ในการตรวจสอบและเก็บข้อมูล ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าไม่มีการขออนุญาตขุดทรายที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติโรงงาน และผิดตามกฎหมายที่ดิน รวมถึงมีการขุดลอกทราย ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำละแม ซึ่งจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย
นายสมพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังตรวจพบรายที่ได้รับอนุญาตการดำเนินการขุดทรายและดูดทราย บนที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ แต่ได้ขุดทรายในจุดที่ไม่ตรงกับพื้นที่ได้ขออนุญาต และบางแปลงได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ผิดเงื่อนไขของใบอนุญาตเป็นต้น และในการดำเนินการครั้งนี้ จะลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อจะดำเนินการในแต่ละแปลง หากมีการดำเนินการหรือฝ่าฝืนกฎหมายจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหาตัวผู้กระทำความผิดไม่มีการละเว้นอย่างเด็ดขาด.