อีกแล้ว รถ CRV ขับแช่ขวาปิดทางรถกู้ชีพฉุกเฉินขณะนำคนแก่ผู้ป่วยโรคหัวใจส่งโรงพยาบาล พอจะแซงกลับเร่งเครื่องเบียดตัดหน้าอีก รถหวิดตกข้างทาง (มีคลิป)
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 พ.ค.61 เจ้าหน้าที่กู้ชีพอำเภอสวี จ.ชุมพร รายหนึ่งไม่ประสงค์ออกนามได้นำคลิปวีดีโอหน้ารถกู้ชีพฉุกเฉินมอบให้ผู้สื่อข่าว เพื่อออกสื่อให้ประชาสัมพันธ์ขอความกรุณาให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเมื่อเห็นรถกู้ภัย กู้ชีพ เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินขอทางขอให้หลบรถชิดซ้ายเพื่อเปิดทางให้สามารถนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลได้รวดเร็วขึ้น
เจ้าหน้าที่กู้ชีพอำเภอสวีรายนี้ เปิดเผยว่าเหตุการณ์ณืจากคลิปหน้ารถพยาบาลฉุกเฉินนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.46 นาที ของวันนี้ หลังได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ศูนย์นเรนทร โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ให้ไปรับผู้ป่วยเป็นหญิงชราวัย 79 ปี ที่บ้านพักในพื้นที่ตำบลวิสัยใต้ อำเภอสวี ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีประวัติเป็นโรคหัวใจและเกิดวิงเวียนศีรษะเฉียบพลัน จึงพร้อมด้วยอาสาสมัครฯทั้งหมด 4 ราย รีบนำรถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉินออกไปรับผู้ป่วยแล้วนำส่งโรงพยาบาลสวี โดยมีญาติของผู้ป่วยติดตามมาด้วย
ขณะที่กำลังรถพยาบาลกู้ชีพฉึกเฉินนำผู้ป่วยมาตามถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้เข้าเขตพื้นที่ตำบลครน ได้มีรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีบรอน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร เล่นอยู่เลนขวาสุดซึ่งตนเปิดเสียงไซเรนและปีบแตรขอทางตามหลังรถซีอาร์วีคันดังกล่าวเป็นระทางร่วม 4 กิโลเมตร ก็ไม่ยอมหลบทางให้ แต่เมื่อตนพยายามหาจังหวะจะแซงทางเลนซ้ายรถซีอาร์วีคันดังกล่าวก็ทำเหมือนจะขับเปลี่ยนมาทางเลนซ้ายเหมือนกันทำให้ตนแซงไม่ได้จึงจำเป็นต้องขับอยู่เลนขวามาตลอด
เจ้าหน้าที่กู้ชีพผู้นี้เปิดเผยต่อว่า ตนได้พยายามขอทางมาตลอดซึ่งในบางช่วงรถวีอาร์วีทำเหมือนจะให้ทางโดยขับเบี่ยงรถทำท่าจะเข้าเลนซ้าย แต่เมื่อตนจะแซงกลับเร่งเครื่องแซงเบียดตัดหน้ารถพยาบาลฉุกเฉินเข้ามาทางเลนขวาอีก ซึ่งจังหวะนั้นหากตนเร่งเครื่องแซงขึ้นไปอาจถูกเบียดตกข้างทางแน่นอน เพราะตนเป็นห่วงกลัวว่าผู้ป่วยโรคหัวใจรายนี้ซึ่งเป็นคนแก่อายุมากแล้วและญาติจะเกิดอันตรายขึ้นได้ หลักฐานทั้งหมดจะเห็นได้จากภาพตามคลิปวิดีโอหน้ารถที่บันทึกไว้
เจ้าหน้าที่กู้ชีพรายนี้เปิดเผยอีกว่า การที่ตนส่งมอบคลิปให้ผู้สื่อข่าวเพื่อให้ลงข่าวประชาสัมพันธ์ก็มีเจตนาเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีจิตสำนึกให้ทางกับรถฉุกเฉิน ไม่ได้หวังจะเอาคลิปมาประจานผู้ใดทั้งสิ้นซึ่งตนเองก็ไม่สบายใจในเรื่องนี้ แต่ต้องทำเพื่ออยากให้ทุกคนที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ได้มีจิตสำนึกมีความรับผิดชอบที่ดีต่อสังคม เพราะเวลาทุกวินาทีมีค่ากับชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างมากหากถึงมือแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว.
