ระดมกำลังไล่ล่า 8 ชาวเมียนมา แก๊งค้าแรงงานมนุษย์รับจ้างหัวรายละ 2 หมื่นบาท พาหนีข้ามแม่น้ำกระบุรีชายแดนด้าน จ.ระนอง มาปล่อยข้างทางรอสับเปลี่ยนรถยนต์อีกคันในพื้นที่ จ.ชุมพร แต่ชาวบ้านเห็นเสียก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตามจับได้ 1 คน
วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธร จ.ชุมพร และ ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 41 พร้อมสุนัขตำรวจ สนธิกำลังกว่า 50 นาย โดยการนำของ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร ออกติดตามไล่ล่ากลุ่มแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา จำนวน 8 คน ที่หลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่เข้าไปในป่าละเมาะและสวนปาล์มในพื้นที่ตำบลทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร หลังที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มาจากชายแดนด้าน จ.ระนอง ผ่านเข้ามาในพื้นที่ จ.ชุมพร
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร ได้รายงานความคืบหน้าต่อ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผวจ.ชุมพร ที่ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าว่าเมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมาทางศูนย์วิทยุกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบถุงขนาดใหญ่ถูกทิ้งกองอยู่ริมถนนลูกรังสายในหมู่บ้านเขตรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ไปตรวจสอบ ปรากฏวาพบถุงต้องสงสัยตั้งอยู่ จึงเดินเข้าดู ได้เห็นมีกลุ่มคนจำนวนมากนั่งอยู่ใกล้กับถุงดังกล่าว แล้วลุกขึ้นวิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯสามารถจับกุมไว้ได้ 1 คน เป็นชายชาวเมียนมา อายุ 20-25 ปี ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิสัยเหนือ มาตรวจสอบ
จากการสอบสวนโดยผ่านล่ามทราบว่าทั้งหมดได้นั่งเรือข้ามชายแดนแถวน้ำกระบุรี จ.ระนอง พร้อมเพื่อนอีก 8 คน แล้วจะไปซ่อนตัวอยู่ในป่าจนมืด จากนั้นได้มีรถลักษณะเป็นรถแวนเข้ามารับโดยนั่งคู่กับคนขับ 1 คน เบาะกลาง 3 คน ส่วนที่เหลือด้านหลัง โดยรถคันดังกล่าวได้ขับพาชาวเมียนมาทั้งหมดมาจากริมแม่น้ำกระบุรี จ.ระนอง จากนั้นได้มาจอดริมถนนในหมู่บ้านในพื้นที่ จ.ชุมพร แล้วให้ทุกคนเข้าไปหลบอยู่ในป่าละเมาะเพื่อรอรถยนต์อีกคันมารับ แต่ระหว่างที่รอได้มีคนมาเห็นก่อนจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไป ส่วนนายเมหนีไม่ทันเลยถูกจับตัวไว้ได้
โดยชาวเมียนมาทั้งหมดมีเป้าหมายไปหางานที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อหนีตายจากทหารที่ยึดอำนาจทำให้อดอยากไม่มีงานทำ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายให้กับขบวนการค้าแรงงานมนุษย์เป็นรายหัวๆละ 2 หมื่นบาท
ด้านนายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผวจ.ชุมพร กล่าวว่าในมุมของความเป็นมนุษย์ด้วยกันเข้าใจในตัวของชาวเมียนมา ที่ต้องทนทุกข์กับปัญหารอบด้าน แต่ในขณะเดียวกันการเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นถือว่ามีความผิดและเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศด้วย และในขณะนี้ยังมีโรคระบาดเกิดขึ้นอีก ทำให้ประชาชนหวาดวิตกว่าชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมายนั้น อาจมีเชื้อโควิด-19 มาด้วย จึงต้องเร่งจับกุมชาวเมียนมาทั้ง 8 คนที่ยังหลบหนีกลับมาให้ได้โดยเร็ว ส่วนนายเมที่ถูกจับได้นั้นทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดได้ลงไปตรวจและเก็บสิ่งส่งตรวจนำไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว และถูกนำกักตัวไว้ที่ หน่วยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 414 (ท่าแซะ) เพื่อรอผลว่าพบเชื้อหรือไม่ แล้วจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.