สลด!..กระทิงหนุ่มหนักเกือบตันติดแร้วดิ้นจนเชือกขาดบ่วงรัดขาหนีลงมาตายริมลำห้วยกลางป่าพะโต๊ะ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 มิ.ย.64 ที่เขตบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ น้ำตกหงาวที่ 2 อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฏร์ธานี นายชลิต สินโรจน์ธนากร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว นายสัตวแพทย์ ปิยะ เสรีรักษ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการฯ นายวันชัย เลิศไกร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบกระทิงตัวขนาดใหญ่ติดแร้วพรานป่าตายอยู่ในสวนของชาวบ้านใกล้ริมลำห้วยเชิงเขานมสาว หมู่ที่ 6 ตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนเส้นหลักสายหลังสวน-ราชกรูด ประมาณ 2 กิโลเมตร เส้นทางทุระกันดานสองข้างทางเป็นเหวลึกและคดเคี้ยวต้องเดินทางด้วยรถยนต์โฟร์วีนเท่านั้น พบซากกระทิงหนุ่มตัวขนาดใหญ่ตายอยู่ข้างลำห้วย อายุประมาณ 10 ปี มีแมลงวันและหนอนตอมยั้วเยี้ยส่งกลิ่นเหม็นทั่วบริเวณ ที่ขาขวาหน้ามีเชือกไนเล่อนเส้นใหญ่ที่ใช้ทำเป็นบ่วงแร้วดักสัตว์ติดรัดพันอยู่ที่ขาจนแน่นเป็นแผลลึกฉกรรจ์และเน่าเปื่อยมองเห็นกระดูก คาดว่าตายมาแล้ว 5-7 วัน จากการวัดความยาวของของลำตัวจากหัวถึงหางยาว 2 เมตร วัดจากกลีบเท้าถึงสันหหลังยาว 1.4 เมตร น้ำหนักเกือบ 1 ตัน หรือเกือบ 1,000 กิโลกรัม
หลังจากการชันสูตรซากกระทิงและเก็บหลักฐานต่างๆ เจ้าหน้าที่ได้ตัดเอาส่วนหัวและเขากระทิงเก็บไว้ แล้วใช้รถแบคโฮยกซากกระทิงลงไปฝังกลบไว้ในหลุมขนาดใหญ่ตรงบริเวณจุดที่พบดังกล่าว จากนั้นอีกราวสองเดือนจึงจะมาขุดนำโครงกระดูกไปทำการศึกษาวิจัยต่อไป
นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่าเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบซากกระทิง จากตรวจสอบเบื้องต้นตนได้รับแจ้งว่ากระทิงติดบ่วงแร้วและได้ดิ้นจนเชือกขาดหนีลงมาตายที่เชิงเขาใกล้ลำธาร วีนนี้จำได้นำหน่วยงานเกี่ยวช้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อป้องกันปัญหาต่อไป
ด้านนายสัตวแพทย์ ปิยะ เสรีรักษ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่าสาเหตุการตายของกระทิงตัวดังกล่าวเกิดจากบาดแผลที่ขาของกระทิงซึ่งติดบ่วงแร้วที่มีชาวบ้านมาลักลอบดักไว้แล้วดิ้นรนชนเชือกแร้วขาด และขาได้รับบาดเจ็บจากเชือกบ่วงรัดจนแน่นจากนั้นได้เดินลงมาที่ลำห้วย เมื่อเวลาผ่านไปแผลเน่าและล้มลงไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้จนเป็นเหตุให้ตายอยู่บริเวณดังกล่าวนาน 5-7 วันแล้ว
