จับแก๊งยาบ้าสวีพร้อมอาวุธสงครามเอ็ชเค ตรวจสอบประวัติอาจพัวพันกลุ่มมือปืนในพื้นที่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 พ.ค.61 ที่กองร้อย อส.จ.ชุมพร นายวิระ ทองพิจิตร ปลัดจังหวัดชุมพร จ.ส.ต.ฐิติวัชร บุญกิจ ป้องกันจังหวัดชุมพร พ.ท.พูลศักดิ์ พรประเสริฐ ผบ.หน่วยข่าวกรองกองกำลังเทพสตรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมแก๊งยาเสพติดรายใหญ่พร้อมอาวุธสงคราม
นายวิระ ทองพิจิตร ปลัดจังหวัดชุมพร กล่าวว่าชุดเฉพาะกิจโชคชัย พร้อมด้วยหน่วยข่าวกรองทหารกองกำลังเทพสตรี ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 4 รายคือ นายจำลอง หรือหมา ยังจีน อายุ 40 ปี นายสมใจ หรือแม็ก รอดทุกข์ อายุ 22 ปี นายสมหมาย กิ้มวอน อายุ 62 ปี นางสาวสุพัตรา หรืออุ๊ ศรีสุวรรณ อายุ 29 ปี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 39,090 เม็ด อาวุธปืนสงคราม SK 33 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน .45 มม. 49 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม.CZ.75-B 1 กระบอกพร้อมกระสุน 3 นัด แมกกาซีน 2 อัน เป็นปืนมีทะเบียน และของกลางรายการอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง.
ทั้งนี้จากการที่ จ.ส.ต.ฐิติวัชร บุญกิจ ป้องกันจังหวัดชุมพร ในฐานะ ผบ.ร้อย อส.จ.ชพ.ที่ 1 และ หน.ชุดเฉพาะกิจโชคชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมกำลังทหารเข้าจับกุมตัวนายจำลอง หรือหมา ยังจีน อายุ 40 ปี ชาวบ้านในตำบลหาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร และ นายสมใจ หรือแม็ก รอดทุกข์ อยู่ในพื้นที่ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ ทั้งสองเป็นผู้ค้ายาบ้ารายย่อยได้พร้อมของกลางยาบ้า 475 เม็ด และควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลสารภาพว่าซื้อยาบ้ามาจากเอเย่นต์รายใหญ่คือ นายสมหมาย กิ้มวอน อายุ 62 ปี และนางสาวสุพัตรา ศรีสุวรรณ หรืออุ๊ อายุ 29 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลครน อ.สวี เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมได้ในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมของกลางยาบ้าจนวนดังกล่าวในห้องเก็บของภายในบ้าน และอาวุธปืนอาวุธปืนสงครามซ่อนอยู่ในกองไม้ใต้ถุนบ้านพร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนนายสมหมายให้การว่ายาบ้าและอาวุธปืนสงครามดังกล่าวไม่ได้เป็นของตนแต่เป็นของนายแจ็คลูกเขยตนและเป็นสามีของนางสาวสุพัตราหรืออุ๊ ซึ่งนายแจ็คได้ไหวตัวหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะบุกเข้าจับกุม แต่อย่างไรเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงได้ควบคุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนและกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายต่อไป
สำหรับยาบ้ายาบ้าล็อตดังกล่าวถ้าออกสู่ตลาดได้จะมีมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท ส่วนอาวุธปืนสงคราม เอชเค เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบคาดว่าอาจจะมีกลุ่มมือปืนในพื้นที่นำไปใช้สังหารคนมาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดและประวัติการใช้ปืนอยู่ขณะนี้.
