ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ร้องข้องใจกรมชลประทานสร้างฝายน้ำล้นงบกว่า 35 ล้าน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำเสร็จเกือบปีใช้ไม่ได้พังเสียหาย ชาวบ้านเดือนร้อน 500-700 ครัวเรือน แถมพื้นที่การเกษตรใกล้เคียงถูกน้ำทะลักท่วมหนัก
วันที่ 19 ธ.ค.64 นายอัศม์เดช ทวีสุข อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 19 ตำบลละแม นายสุวารินทร์ ละลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ตำบลละแม นางสาวเฉลียวไอยรากาญจนศักดิ์ อายุ 40 ปี ส.อบต.ละแม พร้อมตัวแทนชาวบ้านจำนวน 3 หมู่บ้านในพื้นที่ 2 ตำบล คือตำบลละแม ตำบลทุ่งคาวัด อ.ละแม จ.ชุมพร รวมกว่า 30 คน พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โครงการสร้างฝายกั้นน้ำพร้อมระบบส่งน้ำของกรมชลประทาน ในพื้นที่คลองต้นน้ำจากน้ำตกจำปูน รอยต่อระหว่างหมู่ 8 ตำบลทุ่งคาวัด และ หมู่ 19 ตำบลละแม สร้างนานนานเกือบ 1 ปี แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ช่วงหน้าแล้งน้ำแห้งขอด ช่วงหน้าฝนน้ำหลากท่วมหนักกว่าเดิม ไม่สามารถกักเก็บน้ำหรือทดน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้เลย ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านกว่า 2 พันคน ได้รับความเดือดร้อนหนักกว่าเดิม
จากการตรวจสอบมีป้ายปูนจนาดใหญ่บริเวณโครงการเขียนข้อความระบุว่า “ โครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฝายบ้านทรัพย์ทวี พร้อมระบบส่งน้ำ หมู่ที่ 19 ตำบลละแม อ.ละแม จ.ชุมพร รัฐบาลสร้างมอบให้ราษฎร เพื่อใช้ประโยชน์และดูแลรักษาร่วมกัน โดยใช้งบประมาณในปี 2563 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “
ภายหลังสร้างเสร็จเมื่อปลายปี 2564 ผ่านไปเกือบ 1 ปีแล้ว พบว่าโครงสร้างของฝายกำแพงปูนมีสภาพแตกร้าวเริ่มชำรุดเสียหายหลายจุด และประตูเปิดปิดระบบน้ำแบบใช้มือหมุนทั้งสองด้านก็ชำรุดเสียหาย หลังก่อสร่งแล้วเสร็จชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์จากฝายดังกล่าวได้เลย ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรกลับได้รับผลกระทบจากปัญหาการก่อสร้างจากการพังทลายของหน้าดินใกล้กับจุดก่อสร้างฝาย ไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นายอัศม์เดช ทวีสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 19 ตำบลละแม กล่าวว่าปัญหาที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบหลังจากสร้างฝายน้ำล้นทั้งหมดมี 3 หมู่บ้าน 2 ตำบลคือ ตำบลละแม และตำบลทุ่งคาวัด หน่วยงานรับผิดชอบไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่ทำไว้กับชาวบ้านได้เช่น บริเวณหน้าฝายก็ไม่ได้เทคอนกรีตป้องกันดินพังทลาย สภาพถนนริมฝายเป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านเดินทางสัญจรผ่านด้วยความยากลำบากและอันตราย หลังจากทำฝายเสร็จหน่วยงานเกี่ยวข้องไม่เคยใส่ใจเลย บอกว่าจะเปลี่ยนท่อบล็อกให้แต่ก็ไม่มีการแก้ไขให้
นายอัศม์เดช กล่าวอีกว่านอกจากนั้นผู้เกี่ยวข้องบแอกว่าจะสร้างถนนที่ชำรุดถูกน้ำท่วมให้ให้ใหม่ และเอาถอนเสาไฟฟ้าออกซึ่งเป็นเสาปูนเพื่อจะสร้างขยายถนน แล้วเอาเสาไม้ต้นสนมาปักแทนเสาไฟเดิม ใช้เชือกสายฝางมามัดหัวเสาผู้ติดกับสายไปฟ้าแรงสูง จนทำให้สายไฟห้อยระโยงรยางมองดูเกะกะและอันตรายตลอดแนว จนถึงวันนี้นานร่วมปีก็ยังไม่ทำให้เหมือนเดิม จนชาวบ้านต้องสบทนทุนซื้อเสาปูนมาเพื่อจะทำกันเองแล้ว
นายอัศม์เดช กล่าวอีกว่านอกเหนือจากปัญหาการสร้างฝายที่เกิดความชำรุดและอื่นๆเสียหายแล้ว มีนายประสิทธิ์ ศรีทันเดช อายุ 48 ปีชาวบ้านหมู่ 8 ตำบลทุ่งคาวัด อาชีพเกษตรกร หลังสร้างฝายเกิดปัญหาน้ำท่วมสวนปาล์มน้ำมันเสียหายทั้งหมด 5 ไร่ และมีเกษตรกรที่อยู่บริเวณใกล้โครงการสร่งฝายได้รับผลกระทบพื้นที่เกษตรเสียหายอีกหลายรายด้วย
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวต่ออีกว่าโครงการดังกล่าวซึ่งใช้งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท ชาวบ้านตั้งคำถามไปถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องว่า ส่งเสร็จแล้วทำไมถึงไม่ได้ใช้น้ำ โดยมีราษฎรได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด 500-700 หลังคาเรือน กว่า 2,000 คน รวมถึงโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสิริราษฎร์ และสำนักสงฆ์แหลมเศียร จึงฝากถามว่า งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท ทำได้เท่านี้เองหรือ